ขับรถลุยน้ำท่วมให้ปลอดภัย ต้องทำอย่างไรบ้าง?
การขับรถลุยน้ำท่วมถือเป็นสถานการณ์ที่ผู้ใช้รถหลายคนอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มักมีน้ำท่วมขังตามถนน หากขับขี่โดยไม่ระวังหรือขาดความรู้ที่ถูกต้อง อาจทำให้รถเสียหาย เครื่องยนต์ดับ หรืออาจเกิดอันตรายได้ บทความนี้จะแนะนำข้อควรระวังและวิธีปฏิบัติเมื่อจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ เพื่อให้คุณและรถยนต์ปลอดภัยมากที่สุด
เทคนิคการขับรถลุยน้ำอย่างถูกต้องและปลอดภัย
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามหลักการเชิงเทคนิคที่สำคัญเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหาย
- การขับขี่อย่างต่อเนื่องและใช้ความเร็วต่ำ
หลักการสำคัญคือการรักษาความเร็วให้คงที่และขับขี่อย่างต่อเนื่อง การขับเร็วเกินไปอาจทำให้รถเสียการทรงตัว และทำให้เกิดคลื่นน้ำซัดเข้าสู่ห้องเครื่องได้ง่าย ความเร็วที่เหมาะสมคือขับช้าและสม่ำเสมอ (แนะนำราว 10–15 กม./ชม. และช้าลงเมื่อมีรถสวนมาเพื่อลดแรงปะทะของคลื่นน้ำ) ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถแช่น้ำนิ่ง ๆ เป็นเวลานานด้วย
- การใช้เกียร์ต่ำเพื่อรักษากำลังของเครื่องยนต์
การใช้เกียร์ต่ำเป็นเทคนิคสำคัญในการขับรถลุยน้ำ เพราะช่วยรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและคงที่ หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องหรือเบรกกะทันหัน เนื่องจากจะทำให้เกิดคลื่นน้ำกระแทกเข้าห้องเครื่องหรือท่อไอเสีย ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์ดับกลางทางได้ การขับแบบช้า ๆ และต่อเนื่องจะช่วยให้รถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
- ปิดระบบเครื่องปรับอากาศ
ก่อนลุยน้ำควรปิดระบบเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดโอกาสที่พัดลมระบายความร้อนจะทำงานต่อเนื่องและฟาดน้ำกระเด็นเข้าสู่ห้องเครื่อง ซึ่งอาจกระทบระบบไฟฟ้าและทำให้เกิดการลัดวงจรหรือตัวรถดับได้ ทั้งนี้ให้จับตาอุณหภูมิเครื่องยนต์ หากสูงผิดปกติให้หยุดในที่ปลอดภัยทันที
- การรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
เมื่อผ้าเบรกเปียกน้ำ ประสิทธิภาพการเบรกจะลดลง จึงควรเพิ่มระยะห่างจากคันหน้ามากกว่าปกติ โดยเพิ่มเป็นอย่างน้อย 2–3 เท่าของระยะที่ใช้บนถนนแห้ง เพื่อให้มีพื้นที่และเวลาในการตัดสินใจมากขึ้น และช่วยให้มองเห็นเส้นทางหรือสิ่งกีดขวางล่วงหน้าได้ชัดเจน
สรุป
การขับรถลุยน้ำท่วมอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ในบางสถานการณ์ แต่หากผู้ขับมีการประเมินความเสี่ยง รู้จักวิธีการขับที่ถูกต้อง และดูแลรถหลังการใช้งานอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดอันตรายและยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ได้
แนะนำการดูแลรถและเลือกใช้อะไหล่ในหน้าฝน
นอกจากเทคนิคการขับขี่อย่างถูกต้องแล้ว การดูแลสภาพรถให้พร้อมใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่น้ำท่วมขังและความชื้นสูง อะไหล่หลายชิ้นมักเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เช่น ผ้าเบรก ใบปัดน้ำฝน ยางรถยนต์ และแบตเตอรี่ หากไม่เปลี่ยนหรือบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
ดังนั้น ผู้ใช้รถควรตรวจเช็กและเปลี่ยนอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับฤดูฝนให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน ใบปัดน้ำฝน เพื่อให้ทัศนวิสัยชัดเจน, ตรวจสอบ ผ้าเบรก ให้มั่นใจว่ายังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ, ตรวจสภาพ ยางรถยนต์ ให้ดอกยางลึกเพียงพอในการรีดน้ำ รวมถึงเช็ก แบตเตอรี่ ที่มักมีปัญหาเมื่อโดนความชื้นหรืออุณหภูมิแปรปรวน
หากคุณกำลังมองหาอะไหล่รถยนต์คุณภาพสำหรับหน้าฝน ควรเลือกซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้และมีการรับประกันสินค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถของคุณจะพร้อมลุยทุกเส้นทางในฤดูฝน และช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
แนะนำอะไหล่ที่เกี่ยวข้อง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ติดต่อผู้จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร คลิก
โทร : 099-1606757