
เบื้องต้นสามารถตรวจสอบอาการคอยล์จุดระเบิดเสียได้ 2 แบบ
อย่างแรกคือ เสียแบบพังไปเลยไฟไม่ออก อันนี้ลองง่ายๆ มีวิธีทดสอบหลายแบบ อย่างแรกใช้วิธีปลดสายไฟที่เข้าตัวคอยล์ (วิธีนี้รถบางรุ่นหลังปลดสายไฟเข้าคอยล์ ไฟรูปเครื่องจะติดนะครับ ไม่แนะนำสำหรับรถรุ่นใหม่ๆ) ปลดแล้วตัวไหนกำลังเครื่องไม่ตกลงจากเดิมตัวนั้นพัง สองใช้วิธียกคอยล์ขึ้น ยกสูงนิดนึงเพราะคอยล์บางรุ่นไฟแรงมากระยะกระโดดกระแสไฟได้ 2-3 นิ้ว ยกสูบไหนแล้วกำลังไม่ตกจากเดิมสูบนั้นพัง หรืออีกวิธียกคอยล์ขึ้นวางบนฝาวาวล์ต่อหัวเทียนลงกราวน์ดูว่ามีประกายไฟที่เขี้ยวหัวเทียนหรือไม่ ถ้าไม่มีพังครับ หลังจากทดสอบตามข้างต้นแล้วให้ลองสลับตำแหน่งคอยล์ดู เช่น ยกสูบหนึ่งแล้วกำลังไม่ตกลงจากเดิมเราตั้งสมมุติฐานว่า คอยล์สูบนี้พัง แต่เพื่อความชัวร์ลองย้ายจากสูบ 1 ไปสูบ 2 ดูว่าอาการตามมาที่สูบ 2 หรือไม่ ถ้าไม่ตามแสดงว่า สัญญาณจากกล่องมีปัญหา แต่ถ้าอาการตามมาที่สูบ 2 อันนี้ฟันธงได้เลยว่าคอยล์พัง
อาการเสียแบบที่สอง คือ คอยล์เสื่อมสภาพ การเสื่อมสภาพมีได้ 2 อย่าง
1. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในคอยล์เสื่อม
2.เนื้อพลาสติกที่ห่อหุ้มคอยล์เสื่อมสภาพ การเสื่อมสภาพทั้ง 2 นี้ หลักๆ มากจากความร้อนของรถยนต์ ภายในคอยล์จะมีขดลวดที่พันทับซ้อนกันเป็นจำนวนมาก โดยขดลวดเหล่านี้จะถูกชุบด้วยฉนวนทางไฟฟ้าเพื่อป้องกันการช๊อตรอบ แต่ถ้าฉนวนเหล่านี้ละลายและทำให้ขดลวดลัดวงจรถึงกันผลที่ตามมาคือกระแสไฟที่ออกจากคอยล์จะลดลงจากเดิม อันนี้ต้องทดสอบจากระยะกระโดดของกระแสไฟถึงทราบได้หรืออาจจะใช้วิธีตรวจสอบจากกระแสที่ไหลเข้าคอยล์ ในรถบางรุ่นกล่อง ECU สามารถตรวจสอบข้อผิดพบพลาดนี้ได้ ส่วนการเสื่อมสภาพจากเนื้อพลาสติกที่ห่อหุ้มคอยล์เบื้องต้นให้สังเกตุด้วยตาเปล่าว่าคอยล์มีรอยแตกร้อยร้าวหรือไม่แล้วลองเพิ่มความต้านทานของตัวคอยล์โดยใช้เทปพันสายหรือท่อหดหุ้มบริเวณส่วนก้านของคอยล์แล้วขับทดสอบดูถ้าอาการดีขึ้น คอยล์รั่ว
อาการเครื่องยนต์เดินสะดุดนอกจากคอยล์จุดระเบิดแล้วมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง
ร้อยละ 70-80 % มีสาเหตุมาจากระบบจุดระเบิด หัวเทียน สายหัวเทียน คอยล์จุดระเบิด นอกจากระบบไฟจุดระเบิดแล้วอาจมีสาเหตุมาจาก ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงหัวฉีด และเซนเซอร์ต่างๆ ภายในเครื่องยนต์เช่น เซนเซอร์เพลาลูกเบี้ยว
คอยล์ที่ปลดก้านได้เปลี่ยนก้านอย่างเดียวจะหายไหม?
เปลี่ยนก้านแล้วจะหายหรือไม่หายทางเราตอบไม่ได้ แต่สามารถทดสอบก่อนได้ โดยการใช้เทปพันสายไฟพันรอบก้าน หรือ อาจใช้ท่อหดห่อหุ้มก้านทั้งหมดแล้วลองดูว่าอาการสะดุดของรถดีขึ้นหรือไม่ถ้าดีขึ้น เปลี่ยนก้านใหม่หาย แต่ถ้าไม่ดีขึ้นไม่ต้องเปลี่ยนครับ แต่เปลี่ยนแล้วจะใช้งานได้อีกนานแค่ไหนก็ตอบไม่ได้ครับ กรณีที่เปลี่ยนก้านใหม่แนะนำให้ทำความสะอาดหน้าสัมผัสทางไฟฟ้าของคอยล์ทั้งหมดทั้งฝั่งไฟต่ำที่มาจาก ECU และ ฝั่งไฟสูง